
สวรรค์มิใช่เรื่องอัตโนมัติ
· เมื่อมิชันนารีกลุ่มแรกเดินทางมาถึง ปาปัวนิวกีนี ก็รู้สึกประหลาดใจที่พบว่า ชนเผ่าโบราณนี้มีความเชื่อในเรื่องของสวรรค์อยู่แล้ว ทุกคนจะต้องไปที่นั่นหลังจากตายจากโลกนี้ไป
· แต่สำหรับเรื่องราวระหว่างสวรรค์ของชนเผ่ากับสวรรค์ที่พระเยซูพูดถึงนั้นมีความแตกต่างกันมากนัก พระเยซูเตือนเสมอว่า สวรรค์นั้นมิใช่เรื่องอัตโนมัติที่ใครก็เข้าไปได้ แต่เป็นสำหรับผู้ที่ทำสิ่งที่ดีเท่านั้น
· พระเยซูเจ้าตรัสใน มธ 7.14 ว่า “แต่ประตูและทางซึ่งนำไปสู่ชีวิตนั้นคับแคบ คนที่พบทางนี้มีจำนวนน้อย”
· ถ้าหากภาพของสวรรค์เป็นเหมือน ประตู เราก็อาจจินตนาการว่า แต่ละคนก็ต้องมีตั๋วเพื่อจะได้เข้าผ่านประตูนั้นได้
· ตั๋วแรกในชีวิตของเราก็คือ ศีลล้างบาป แต่ตั๋วนั้นก็อาจจะเก่าได้และอาจหมดอายุได้เช่นกัน และก็อาจใช้ไม่ได้แล้ว
· อย่างที่เรารู้กันว่า ตั๋วเครื่องบินหรือตั๋วสำหรับเล่นเกมส์นั้นมีวันหมดอายุกำกับไว้เสมอ เพื่อบอกกับเราว่า หลังจากเวลานั้นหรือช่วงนั้นช่วงนี้ ตั๋วนี้ก็จะหมดอายุและใช้ไม่ได้
· สำหรับตั๋วไปสวรรค์ก็น่าจะคล้ายๆ กัน เราต้องทำให้ตัวเรามั่นใจว่า ตั๋วนั้นยังใช้ได้อยู่เสมอ และถ้าเราไม่ทำตามเงื่อนไขของการไปสวรรค์ ซึ่งมากับชีวิตคริสตชน ตั๋วนั้นก็คงใช้ไม่ได้แน่ๆ
· สิ่งหนึ่งที่เป็นกฏพื้นฐานง่ายๆ ก็คือ เราคงต้องอยู่ใน “สถานะพระหรรษทาน” นั่นหมายถึง การเข้าไปแก้บาป การรับศีลศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ การนำเอาจิตตารมณ์พระวรสารไปปฏิบัติในชีวิตของเราทุกวัน ทั้งนี้ เพื่อให้แน่ใจได้ว่า ตั๋วของเราที่จะเข้าสวรรค์นั้น ยังคงใช้ได้อยู่เสมอ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น