วันเสาร์ที่ 22 กันยายน พ.ศ. 2550

อาทิตย์ที่ 25 เทศกาลธรรมดา ปี C


อาทิตย์ที่ 25 เทศกาลธรรมดา ปี C


สวัสดีพี่น้องที่รักทุกคน วันนี้เราอยู่ห่างไกลจากสมัยของพระเยซูเจ้ามาก ถึง 2000 ปี แต่วันนี้เราได้ฟังเรื่องที่พระเยซูเจ้าเล่าเปรียบเทียบ และรู้ได้เลยว่า เรื่องวันนี้ทันสมัยมาก ก็คือเรื่อง “เงิน”

พี่น้องที่รักครับ จุดมุ่งหมายของพระวรสารในวันนี้ ก็เพื่อที่จะเตือนเรามิให้แสวงหาเงินทอง หรือให้เงินทองเป็นเป้าหมายของชีวิตแต่เพียงอย่างเดียว พี่น้องครับ ปัจจุบันเงินมีบทบาทกับชีวิตของเรามาก ไม่ว่าเราจะมีมากหรือมีน้อย พี่น้องคงทราบดีกว่าพ่อแน่ ๆ ในโลกที่เงินสามารถบันดาลทุกอย่างได้ ทุกที่ที่มีเงิน สิ่งนั้นก็เกิดขึ้น นั่นคือความจริงในปัจจุบันที่เราไม่อาจปฏิเสธได้

พี่น้องครับ เงินคือสิ่งที่เราต้องใช้ แต่ถ้าเราปล่อยให้เงินเป็นนายของเรา มันก็จะทำลายเรา และกลายเป็นพระเจ้าของเราแทน (บางคนอาจจะบอกว่า ยอมให้มันทำลายดีกว่า เพื่อจะได้มีเงินมาก ๆ ) แต่สิ่งสำคัญที่เราต้องไม่ลืมก็คือ เมื่อเราไปถึงจุดสุดท้ายของชีวิต สิ่งที่จะถูกนับก็คือ ความดีที่เราทำ ไม่ใช่นับว่า ใครมีอะไรมากกว่ากัน โดยเฉพาะในเรื่องของทรัพย์สมบัติ

พี่น้องที่รักครับ เมื่อวานผมได้ไปประธานในการฉลองวัดแห่งหนึ่ง ชื่อว่า วัด น.มีคาแอล ซึ่งเป็นวัดน้อยแห่งหนึ่งขึ้นสังกัดกับอัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ พี่น้องคงจะงง วัดนี้อยู่ตรงไหนของแผนที่ประเทศไทย ก็เป็นวัดเล็ก ๆ จะเรียกว่าวัดก็ไม่เชิง ต้องเรียกว่าบ้านน่าจะเหมาะกว่า ตั้งอยู่ใกล้แม่น้ำน้อย ในจังหวัดอ่างทอง

สิ่งที่ทำให้ผมพิศวงใจก็คือ ปกติเมื่อการฉลองวัด ก็จะมีการประกาศประชาสัมพันธ์ เชิญชวน แจ้งว่า ห้องอาหาร,จอดรถ,ห้องน้ำ ฯลฯ ในขณะที่ลำโพงนั้นก็หันหน้าไปทางที่ที่แก้บาปด้วย คนไปแก้บาปก็ต้องตะโกนสู้กัน พระสงฆ์ก็ตะโกนสอน บอกกิจใช้โทษบาปกันไป ก็จะเป็นประมาณนี้
แต่สำหรับที่นี่ วัดน้อยอ่างทอง ไม่มีอย่างที่ว่าเลย ผมได้พบความสงบ อย่างที่ไม่มีการฉลองวัดแห่งไหน ๆ ในสังฆมณฑลของเราจะทำได้ คือ ไม่มีเสียงประชาสัมพันธ์ใดใดทั้งสิ้น ทุกคนรู้กันเองว่า อาหารทานที่ไหน, ห้องน้ำไปทางไหน , ที่แก้บาปก็คือ บนวัด ใครมาถึงก่อนก็นั่งสวดไปเอง ไม่มีการก่อสวด ฯลฯ

พ่อรู้สึกขอบคุณ คุณพ่อที่จัดการฉลองวัดนี้ พ่อรู้สึกว่า สัตบุรุษและพระสงฆ์ที่มาร่วมในมิสซาเมื่อวานคงมีความรู้สึกที่ไม่ต่างจากพ่อ และพ่อเชื่อว่า พระเจ้าต้องการและในความสงบแบบนี้ เราจะพบพระเจ้าได้ง่ายกว่า และยิ่งถ้าเรามีความสงบในใจของเรา เราก็จะยิ่งพบพระเจ้าได้ง่ายขึ้นแน่ ๆ
พี่น้องครับ มีคำกล่าวที่ว่า “เงินเป็นรากเหง้าของความชั่วร้ายทั้งปวง” พี่น้องเห็นด้วยกับประโยคนี้หรือไม่ครับ?? สำหรับพ่อ นี่คือความจริง แต่ยังมีช่องว่างก็คือ ขึ้นอยู่ว่า เราใช้เงินอย่างไร เมื่อเงินเข้าครอบงำชีวิตของเรา เราก็จะพลาดเป้าหมายชีวิตง่าย ๆ พ่อขอยกตัวอย่างของเด็ก ๆ นักเรียน ถ้าชีวิตพ่อแม่มีแต่เงิน ทำอะไรก็ใช้เงิน ไม่ได้ให้ลูกใช้ความพยายาม ใช้ความสามารถที่ถูกต้อง ใช้ความอดทนในการเก็บหอมรอบริบ อยากได้เงินก็แบมือขอพ่อแม่อย่างเดียว ผลก็คือ ครอบครัวก็มีปัญหา และมาแสดงออกที่โรงเรียน

พระวาจาของพระในวันนี้ นำเราให้ถามตนเองว่า เรากำลังเลือกพระเจ้าหรือเลือกเงินตราเป็นที่หนึ่งในชีวิต ? ถ้าเราได้ใช้สิ่งของของโลก ที่เราเรียกว่าเงินนี้ เป็นทางนำเราไปสู่เป้าหมายในชีวิตหน้า พี่น้องก็มาถูกทางแล้ว

พี่น้องครับ ประสบการณ์สอนเราว่า สิ่งสร้างใดใดก็ตาม ไม่สามารถรับประกันว่า เราจะพบความสุขและความปลอดภัยในชีวิตได้อย่างสมบูรณ์ เพราะจุดหมายปลายทางของเราคือ สวรรค์ พระอาณาจักรที่พระเจ้าทรงคอยเราอยู่ เมื่อเรามาสู่จุดหมายปลายทางของชีวิต เราก็ไม่สามารถเอาอะไรไปได้เลย นอกจากความดีงามในชีวิตที่เราได้ทำสั่งสมมาตลอดชีวิต

พี่น้องครับ พ่อขอจบการแบ่งปันในวันนี้ด้วยประโยคที่ว่า “ เงินเป็นอุปกรณ์ที่สามารถซื้อทุกสิ่งได้ ยกเว้น

ความสุข และซื้อตั๋วไปทุกที่ในโลกนี้ได้ ยกเว้นตั๋วไปสวรรค์”
ขอพระเจ้าประทานพระพรสำหรับพี่น้องทุก ๆ คน ให้มีกำลังดำเนินชีวิตอย่างดี แม้เราอาจจะต้องใช้เงินทองและสิ่งของของโลกนี้ แต่ก็ขอให้เราใช้มันเพื่อนำเราไปสู่บ้านแท้ ให้พระเป็นเบอร์หนึ่งในชีวิตของเรา
ขอพระเจ้าอวยพรพี่น้องทุกท่านครับ


ไม่มีความคิดเห็น: