วันอาทิตย์ที่ 27 กรกฎาคม พ.ศ. 2551

ส.17 เทศกาลธรรมดา ปี A

อ่านพระวาจาประจำสัปดาห์ที่ 17 เทศกาลธรรมดา ปี A คลิกที่นี่


สวัสดีพี่น้องที่รักทุกท่าน จากพระวาจา 2 อาทิตย์ที่ผ่านมา อุปมาเรื่อง ผู้หว่าน, ข้าวสาลีและข้าวละมาน และบทสรุปในวันนี้คือ พระอาณาจักรของพระเจ้า คือ เป้าหมายของชีวิตเรา


บทอ่านที่ 1 เราได้ยินสิ่งที่กษัตริย์หนุ่มซาโลมอนวอนขอจากพระเจ้า สิ่งที่เขาขอนั้น ไม่ใช่ความร่ำรวย หรือความมั่นคง ชีวิตยืนยาวหรือชัยชนะเหนือศัตรู และที่สำคัญนั้น ซาโลมอนไม่ได้ขอเพื่อตนเอง แต่เพื่อรับใช้ประชากรของพระเจ้าตามพระประสงค์


สิ่งที่ท่านวอนขอคือ “ขอพระองค์ประทานความคิด ความเข้าใจแก่ผู้รับใช้ เพื่อจะได้วินิจฉัยประชากรของพระองค์ เพื่อข้าพเจ้าจะได้แยกแยะความแตกต่างระหว่างความดีและความชั่ว” ซาโลมอนได้ขอ “ปรีชาญาณ” จากพระเจ้า และพระเจ้าทรงตอบสนองซาโลมอน โดยทรงสัญญา
“เราให้เจ้ามีจิตใจที่ประกอบด้วยปัญญาและความเข้าใจ จนไม่มีใครที่มีชีวิตอยู่ก่อนเจ้าเหมือนเจ้า และไม่มีใครที่จะเกิดมาภายหน้าเจ้าเหมือนเจ้า”
ซึ่งความหมายของพระวาจาตอนนี้คือ พระเจ้าประทานความปรีชาสูงสุดให้แก่ซาโลมอน
ถ้าเราจะสรุป เราคงต้องยอมรับว่า “ความสามารถ ปรีชาญาณ การสามารถแยกแยะความดีจากความชั่ว” นั้น มาจากพระเจ้า พระเจ้าประทานปรีชาญาณนี้แก่ผู้ที่วอนขอไม่ใช่เพื่อตนเอง แต่เพื่อความดีงามของประชากรพระเจ้า


บทอ่านที่ 2 พระเจ้าเรียกเราทุกคนให้เป็น “บุตรของพระเจ้า” ดังนั้นเราจึงต้องเป็น “ผู้ชอบธรรม” ดังเช่นพระเจ้า เพราะเราได้รับพระลักษณะของพระเจ้าใน ชีวิตของเรา เราคือ “พระฉายา” ของพระเจ้า นั้นหมายความว่า เรามีสิริมงคลของพระเจ้า ชีวิตของเราจึงต้องเต็มไปด้วยความเหมือนพระเจ้า
นั่นคือ ความสามารถในแยกแยะความดีจากความชั่ว


พระวรสาร พระเจ้านั้นเป็นดังขุมทรัพย์ล้ำค่าสูงสุดที่เราต้องยอมละจากทุกสิ่ง ขายทุกอย่างเพื่อให้ได้มาซึ่งพระลักษณะของพระเจ้า
“เมืองสวรรค์” ไข่มุกเม็ดงามที่สุด ที่ต้องยอมขายทุกอย่างเพื่อให้ได้มา หรือเหมือนอวนใหญ่ที่จับปลาทุกชนิดและสามารถแยกแยะปลาดีจากปลาที่ไม่ดี


จำเป็นเหลือเกินที่เราจะต้องมีความเข้าใจ และสามารถแยกแยะระหว่างความดีและความชั่วอย่างแท้จริงไม่ใช่หรือ?
· เราเห็นข่าวดีแท้จริงคือ พระเจ้า พระลักษณะของพระเจ้า ความสามารถของพระเจ้าที่ซาโลมอนได้รับและความสามารถนั้น พระลักษณะนั้นที่เปาโลบอกว่า เราได้รับโดยทางศีลล้างบาป เราเป็นเหมือนพระคริสตเจ้า
· พระเยซูเจ้าตรัสข่าวดีแท้คือ ความสามารถของพระเจ้านั้นเอง การแยกแยะความดีจากความชั่ว และเรียกร้องให้ผู้ติดตามพระองค์ต้องเข้าใจ
· พี่น้องที่รัก นี่คือข่าวดีจากพระวาจาในวันนี้ ข่าวดีของพระเจ้าเราได้รับจากพระองค์ จากพระวรสาร เราซึมซับข่าวดีหรือคุณค่านี้ดีเพียงใด?
· ลูกไม้ย่อมหล่นไม่ไกลต้นฉันใด เราในฐานะของบุตรพระเจ้า เราเองก็ย่อมต้องมีผลดี เหมือนกับภาพลักษณ์ของพระเจ้าฉันนั้น ซึ่งในผลนี้คือ การแยกแยะความดีจากความชั่วนั่นเอง
· และในชีวิตจริงของเรานั้น ความดีความชั่วที่เราพบประจำวัน เราแยกแยะออกไหม?
· เรากับพี่น้องของเรา กับคนในครอบครัวของเรา เราอยู่กันด้วยปรีชาญาณของพระเจ้าเพียงใด หรือเราอยู่กันด้วยตามใจเราเท่านั้น
· ขอให้พระวาจาของพระเจ้าจากพระวรสารเป็น “ปรีชาญาณ” ของเราเสมอไป ขอให้ขุมทรัพย์ของเราคือ พระคริสตเจ้าและพระวาจาของพระองค์เสมอไปเทอญ

ขอพระเจ้าประทานพระพรแด่พี่น้องทุกท่าน

หมายเหตุ อ้างอิงจากข้อคิดจากพระวาจาวันอาทิตย์ โดย คพ.สมเกียรติ ตรีนิกร * พระสงฆ์อัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ


ไม่มีความคิดเห็น: