สวัสดีพี่น้องที่รักในพระคริสตเจ้า
สัปดาห์นี้พระวาจาของพระเจ้าเป็นเรื่อง “ข้าวสองแบบที่ขึ้นปะปนกัน” นอกจากเรื่องนี้แล้ว พ่อยังเห็นว่า มีพระวาจาอีก 2 เรื่องที่มีความหมายใกล้เคียงกัน มาเปรียบเทียบในคราวเดียวให้พี่น้องเป็นข้อคิดสะกิดใจในสัปดาห์นี้
เรื่อง 1. ข้าวละมานกับข้าวสาลี
2.ชาวประมงที่จับปลาได้ คัดเลือกปลาดีและปลาเลวออกจากกัน
3.เรื่องต้นมะเดื่อที่ไร้ผล ปลูก 3 ปีไม่มีผล
พี่น้องครับ ข้าวละมานและอวนมีความหมายแบบเดียวกัน คือ ขณะที่เราเจริญชีวิตอยู่ในโลก พระเป็นเจ้าทรงปล่อยให้คนดี คนชั่วอยู่ปะปนกัน แบบนาข้าวสาลี มีข้าวละมาน(ข้าวป่า) ขึ้นแซมอยู่ ทำนองเดียวกัน อวนจับได้ทั้งปลาดีและปลาขี้ริ้ว ส่วนต้นมะเดื่อไร้ผล จะถูกโค่นเผาไฟ ถ้าไม่บังเกิดผล
พี่น้องครับ
· เนื้อเรื่องแรก กล่าวว่า เมืองสวรรค์เปรียบได้กับบุรุษที่เอาข้าวสาลีพันธ์ดีไปหว่านลงในนาข้าว ตกกลางคืนศัตรูผู้ริษยาก็เอาข้าวละมานมาหว่านทับลงไป เมื่อต้นข้าวเติบโตออกรวง ข้าวละมานก็ปรากฏออกมาด้วย ลูกจ้างจึงไปบอกนายและออกความเห็นว่า “จะถอนมันออกดีไหม?” นายตอบว่า “อย่าเลยเกรงว่า ขณะถอนข้าวละมาน ก็จะถอนข้าวสาลีติดมาด้วย รอไว้ถึงเวลาเก็บเกี่ยว ให้ลงมือเกี่ยวข้าวละมานก่อน มัดเป็นฟ่อนเผาไฟเสีย แล้วเก็บเกี่ยวข้าวสาลีไว้ในยุ้งฉาง”
· พระเยซูเจ้าตรัสต่อไปว่า “เมื่องสวรรค์ยังเปรียบได้กับอวนปากใหญ่ หย่อนลงในทะเล และติดปลาทุกชนิด เมื่อลากอวนถึงฝั่งแล้ว ชาวประมงจะเลือกปลาดีใส่เข่ง ส่วนปลาเลวก็ขว้างทิ้งไป
· ที่สุดพระองค์ตรัสถึงบุรุษผู้หนึ่งปลูกมะเดื่อไว้ในสวน 3 ปีแล้ว ที่เขาออกไปเก็บผล ก็ไม่พบเลย...เขาจึงพูดกับคนสวนว่า “ตัดมันทิ้งเสีย รกที่เปล่าๆ” แต่คนสวนตอบว่า “นายครับ ขอลองใส่ปุ๋ย ดายหญ้า พรวนดิน ดูอีกสักปี ...ถ้าปีหน้าไม่ออกผลอีก ก็ตัดทิ้งไปเถอะครับ”
พี่น้องครับ ถ้าเราหยุดพิจารณาดูรอบตัวเรา ก็จะพบทั้งคนดีและคนเลว แบบเดียวกับตามไร่ตามสวน มีต้นพืชผักผลไม้ที่ดีน่ารับประทาน แต่ก็ไม่วายมีหญ้ารกหนามร้ายคอยเบียดบังปะปนอยู่เสมอ... เราต้องหมั่นถางหมั่นดายหญ้าร้ายทิ้งฉันใด...เราก็พึงพยายามปรับปรุงตัวเองให้ดีขึ้นเสมอฉันนั้น
เราอยู่ในโลก ก็ต้องระมัดระวังคนชั่วคนพาล และอิทธิพลต่างๆของเขา คนชั่วนั้นบางทีปรากฏทีท่าน่าเคารพก็ได้ ที่เรียกว่า “หน้าซื่อใจคด” ดังนั้นตราบใดที่เรายังมองไม่เห็นในใจของกันและกัน ก็จำต้องอาศัยกาลเวลาพอสมควรเพื่อพิจารณาตัดสินจากพฤติกรรมของเขา
พี่น้องที่อ่านหนังสือพิมพ์, ฟังวิทยุ หรือดูรายการโทรทัศน์ ,อินเตอร์เน็ต อาจจะพบ หรือเห็นภาพอาชญากรรม ที่ท่านไม่เคยนึกฝันมากก่อนก็ได้ ยิ่งกว่านั้น มีคำกล่าวว่า “อาชญากรสำคัญๆนั้น มิใช่ชาวคุกทุกคนหรอกครับ...แต่ผู้ที่ยังลอยหน้าลอยตา มียศ มีเกียรติในสังคม ที่เราต้องโค้งคำนับ ยกมือไหว้นั่นแหละ อาจจะเป็นอาชญากรที่ยิ่งใหญ่กว่าเสียอีกก็ได้” พระเจ้าผู้เดียวทรงล่วงรู้สารพัด แม้ความคิดล้ำลึกในใจ พระองค์ผู้เดียวทรงพระยุติธรรมสูงสุด
พี่น้องครับ แต่พระเจ้าก็ทรงพระเมตตาเหลือล้น ทรงพากเพียรรอคอยคนบาปกลับใจ เวลาเจริญชีวิตในโลกนี้คือ “เวลาแห่งพระมหากรุณา” ชาวเราจงใช้วันเวลา อายุไม่มากนักนี้ ให้เป็นประโยชน์ที่สุด อย่าให้เป็นดั่งต้นมะเดื่อไร้ผล ที่เจ้าของคาดโทษ เตรียมจะโค่นเผาไฟเลย จงเปลี่ยนวิถีชีวิตของท่านในขณะที่ท่านยังอยู่ในเวลาแห่งพระมหากรุณาเถิด
สุขสันต์วันพระเจ้า ขอพระเจ้าอวยพรพี่น้องทุกคน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น