วันศุกร์ที่ 15 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2551

ส. ที่ 2 เทศกาลมหาพรต ปี A - ข้อคิดจากพระวาจา



วันอาทิตย์ที่ 17 กุมภาพันธ์ ค.ศ.2008

“ท่านผู้นี้เป็นบุตรสุดที่รักของเรา เราพึงพอใจยิ่งนัก จงฟังท่านเถิด”

พี่น้องมาวัดทุกอาทิตย์ ตื่นแต่เช้า แต่งตัว แต่งหน้าทำผม ให้ดีที่สุด สวยที่สุด เลือกชุดที่สวยที่สุด เพื่ออะไร? คงไม่ใช่แค่การทำตามกฎของพระเจ้า พระศาสนจักรเท่านั้น แต่พ่อเชื่อว่า เป็นเพราะพี่น้องต้องการมาฟังพระวาจา

เสียงที่ปรากฏในพระวาจา ก็คือเสียงของพระเจ้าที่บอกกับเปโตร ยากอบ ยอห์น “เราพอใจ จงฟังท่านเถิด” เน้นย้ำให้เราเห็นคุณค่าของการฟัง การฟังต่างจากการได้ยินธรรมดา ๆ แต่เป็นความตั้งใจที่จะฟัง เพื่อจะได้เข้าใจ ให้ประทับในความคิดและจิตใจ
การจำแลงพระกายนี้ มีความหมายเพื่อให้เราเข้มแข็งในความเชื่อและมีความหวังและให้กำลังใจกับบรรดาศิษย์ให้พากเพียรไปสู่การทดลองในอนาคต

พี่น้องครับ เรื่องราวของการจำแลงพระกายของพระเยซูเจ้าเป็นตัวอย่างที่ดีของความเข้มแข็งและประกันความมั่นใจว่า สิ่งที่เราจะได้รับจากการสวดภาวนาในสถานกาณ์ต่าง ๆ ของชีวิต
พระเยซูเจ้าไปหาที่เงียบ ๆเพื่อสวดภาวนา หากชีวิตของเราเต็มไปด้วยความลำบาก ท้อแท้ เราคงต้องการเวลาที่เงียบ เวลาสันติ เพื่ออะไร? เพื่อที่จะฟังเสียงของพระ ซึ่งพี่น้องจะไม่พบที่อื่นๆ เมื่อวานเรามีการเข้าเงียบที่วัดของเรา มีพี่น้องมาประมาณเกือบ ๆ 90 คน เราต้องการสิ่งที่ภายในต้องการ นั่นคือ ความสงบเพื่อจะได้พบพระ พระเยซูเจ้าแม้ทรงเป็นพระบุตร แต่ในเวลาที่พระองค์ต้องการก็จะหาที่เงียบเพื่อภาวนา ซึ่งเราจะพบได้เมื่อเรามีความสงบ

พี่น้องครับ บ่อยครั้งที่เราพบว่า เวลาที่เราพบพระได้ดี ก็ในเวลาที่เราสวดภาวนา 1. การภาวนาเป็นเครื่องหมายของการประทับอยู่ของพระเจ้า, การฟังพระองค์และมีประสบการณ์กับพระองค์ในชีวิตของเรา การสวดให้กำลังใจและให้ความมั่นใจและช่วยยืนยันกับเราว่า ในระหว่างที่เราเดินทางในโลก ตั้งแต่หนุ่มสาว จนเป็นผู้สูงอายุนั่นก็คือ การที่พระกำลังเรียกเรากลับบ้าน พระองค์ไม่ได้เรียกเราไปสู่ที่ที่ไม่มีใครเคยรู้จัก เหมือนกับอับราฮัมที่ถูกเรียก แต่พระองค์เรียกให้เราไว้ใจ เชื่อใจพระองค์จากเหตุการณ์ท้าทายความเชื่อในชีวิตของเรา

พี่น้องครับ ประโยชน์ของการสวดภาวนาก็คือ 2. การภาวนาช่วยให้เรามองดูโลกในสายตาของพระเจ้า เวลาที่เราสวด แน่นอนว่า ปัญหาไม่ได้รับการแก้ในทันทีทันใด ใช่ไหมครับ เรามาวัด สวดขอ กลับบ้านไปทุกอย่าง OK ก็ไม่ใช่ แต่ทำให้เราเผชิญหน้ากับปัญหาอย่างกล้าหาญ คนที่อายุไม่มากแล้วเป็นมะเร็ง , บางคนต้องตัดขา หลายคนสวดภาวนาเพื่อให้โรคร้ายหายไป ซึ่งจริงแล้วมันก็ไม่หาย ถามว่า เมื่อโรคไม่หาย และความเชื่อเราหายไหม? การสวดขอพระช่วยอะไรเราได้ไหม? หากมองอย่างนี้ ปัญหาไม่ได้รับการแก้ในทันที แต่อาศัยการภาวนา ทำให้เรามองทุกสิ่งด้วยสายตาของพระ มิเช่นนั้น พระเยซูเจ้าจะสอนเรื่อง ความสุขแท้ 8 ประการทำไม? ความสุขแก่ผู้มีใจยากจน , ฯลฯ ไปทำไม

พี่น้องครับ เราทุกคนอยู่ในหนทางสู่เขากัลวารีโอเช่นเดียวกับพระเยซู และกำลังถูกทดสอบชีวิต ทดลองความเชื่อด้วยความผิดหวังนานัปการ แต่พระเยซูเจ้าสัญญาถึงพระอาณาจักรสวรรค์ในอนาคต ซึ่งต้องอาศัยการแบ่งปันความยากลำบากในเส้นทางเดียวกับพระองค์

พี่น้อง เราจะเป็นศิษย์แท้ของพระเยซูเจ้าได้ ก็โดยอาศัยการแบ่งปันความเชื่อ การช่วยเหลือกันและกัน ทำให้ครอบครัวของเราเป็นเพื่อนร่วมทางไปกัลวารีโอ พระเจ้าให้กำลังใจผู้อื่นโดยอาศัยเรา ไม่ได้ใช้วิธีที่ลึกลับ พิสดาร ปาฏิหาริย์อะไร? แต่เป็นคำพูดของมนุษย์และกิจการที่แสดงถึงความเมตตาที่เราแสดงออก

พี่น้องครับ เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว พ่อได้เชิญชวนให้พี่น้องได้มีข้อตั้งใจสำหรับการเดินทางในเทศกาลมหาพรตนี้สักคนละ 1 อย่าง ในสัปดาห์นี้พ่อจึงอยากจะเพิ่มเติมว่า เมื่อเราได้มีข้อตั้งใจแล้ว หากได้ปฏิบัติแล้ว ลองสังเกตดูว่า ในความพยายามของเรา จะมีบางสิ่งบางอย่างมาขัดขวางความพยายามของเรา พ่อไม่บอกว่าคืออะไร? พี่น้องลองสังเกตดูเองนะครับ

ขอให้พี่น้องฟังพระวาจาของพระ แล้วเข้าใจและนำไปปฏิบัติในชีวิต โดยมีความตั้งใจว่า ไม่ว่าจะลำบาก ไม่ว่าจะถูกรบกวนความตั้งใจเพียงใด เราก็ต้องพยายามต่อไป เพื่อร่วมเป็นหนึ่งเดียวในการเดินทางในเทศกาลมหาพรตพร้อมกับพระเยซู
ขอพระเจ้าอวยพรพี่น้องทุกคน

3 ความคิดเห็น:

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

ว้าวๆๆๆๆๆ กลับมาใหม่

หลังจากหายไปนาน

สวยงามแจ่มแจ้งเจิดจรัส

สวยจิงๆค่ะ สีสบายตา เนื้อหาสบายใจ

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

ดีใจที่คุณพ่อยังไม่ลืม ลูกรอดูอยู่เสมอ

Cat Lim กล่าวว่า...

อ่านแล้วได้ข้อคิดดี แล้วจะรอคอยอ่านอีกนะค่ะ สีสันก้อสบายตาดีแล้วค่ะ ถ้าบรรทัดขยับห่างได้อีกสักนิดก้อคงดีนะค่ะ แล้วจะเป็นกำลังใจให้ต่อไปค่ะ