อาทิตย์ที่ 27 กันยายน 2009
• มีนักปรัชญาคนหนึ่งชื่อว่า มาร์ติน บูเบอร์ เขียนหนังสือชื่อว่า I and thou (ฉันและเธอ) (1878-1965) เมื่อได้ศึกษาความคิดของ บูเบอร์ เขาเขียนว่า ความสัมพันธ์ที่แท้จริงจะเกิดขึ้นได้เมื่อบุคคลที่หนึ่ง ยอมรับบุคคลที่สองว่า เป็นคนคนหนึ่ง ไม่ใช่สิ่งของใดใด ถ้าใครก็ตามปฏิบัติต่อกันและกัน ความสัมพันธ์ที่แท้จริงคือ คนสองคนที่เกี่ยวข้องกับคนอื่นในฐานะ “บุคคล” บูเบอร์ยังกล่าวต่อไปอีกว่า นี่แหละคือความสัมพันธ์แบบที่พระเจ้ามีกับเราแต่ละคน ในหนังสือ ฉันและเธอ จึงยิ่งใหญ่ที่สุดเพราะว่า เธอ นั้น คือ “เธอนิรันดร” (พระเจ้า) .
• วันนี้ พระเยซูเจ้าสอนว่า พระเจ้าทรงเป็นพระบุคคลที่ทรงรักและเอาใจใส่ต่อเราแต่ละคน พระเยซูเจ้าสอนว่า พระเจ้าจะเข้ามาสู่ชีวิตของเราทุกคน ถ้าหากบุคคลนั้นๆ เปิดรับความรักของพระองค์ ปรัชญาของบูเบอร์ จึงเป็นเสมือนหัวใจของเราคริสตชน แต่ที่พ่อบอกพี่น้องว่า บูเบอร์นั้น เป็นชาวยิว แต่ทำไมในปรัชญาของท่านจึงเต็มไปด้วยแก่นแท้ของชีวิตคริสตชน? อาจเป็นเพราะว่า พระจิตของพระเจ้า ชีวิตของพระเยซูเจ้า ได้ปรากฏชัดในโลกว่า พระเจ้าทรงประทับอยู่ในโลกเรานี้อย่างแน่นอน เหมือนกับคนเช่น เอลดาด,เมดาด หรือ มาตินบูเบอร์ ซึ่งไม่ได้อยู่ในเต๊นท์นัดพบ ก็ยังได้รับพระจิตแห่งความจริงด้วย
• คนต่อมา ชื่อ บอร์นฮอรฟ์ เป็นศาสนบริกรลูเทอรัน เป็นหนึ่งในไม่กี่คนที่แสดงตนชัดเจนในการต่อต้านฮิตเลอร์ และประกาศว่า การที่ฮิตเลอร์ทำกับชาวยิวนั้นไม่ถูกต้อง บอร์นฮอร์ฟไม่ยอมเงียบ เขาจึงถูกจับ,ทรมานและถูกฆ่าตายในที่สุด บอร์นฮอร์ฟ จะได้เป็นมรณสักขีหรือเป็นนักบุญหรือเปล่า? แน่นอน แต่ว่าจะเป็นอย่างไรดี คนที่เป็นคาทอลิกเท่านั้นที่จะเป็นนักบุญได้ไม่ใช่หรือ? บอร์นฮอร์ฟตายโดยที่ไม่ได้เป็นคาทอลิก ท่านประกาศความจริงและให้กำลังใจ, ให้คนเข้มแข็งและแสดงให้เห็นถึงพละกำลังของพระจิตเจ้าในตัวของท่าน พระจิตของพระเยซูได้นำพระศาสนจักรผ่านทางร่างกายของพระคริสตเจ้าโดยผ่านทางชีวิตของ บอร์นฮอร์ฟ ถึงแม้ว่า ชายผู้ยิ่งใหญ่นี้ จะไม่ได้ไปที่เต๊นท์นัดพบเพื่อได้รับพระพรแห่งการเป็นคาทอลิกก็ตาม
• ชีวิตของ มหาตมะ คานธี เป็นชาวฮินดูและเป็นคนต่างศาสนา แต่ชีวิตของท่านและการที่ท่านได้ยอมตายเพื่อรักษาหลักการเช่นเดียวกับพระคริสตเจ้า เป็นไปได้ใหมว่า คานที ได้รับพระจิตเจ้าแม้ว่าท่านจะไม่รู้จักพระจิตเจ้านั้นเลย หรือแม้แต่ไม่รู้จักกับพระเยซูเจ้าเลย
• พ่อเชื่อว่า พละกำลังของพระจิตเจ้ามีมากกว่าข้อจำกัดทางศาสนา คานธีก็คงเป็นเหมือนชายในพระวรสารวันนี้ที่ได้ทำการไล่ปีศาจในนามของพระเยซู แม้ว่า ชายคนนั้นจะไม่ได้เป็นหนึ่งในศิษย์ 12 คนของพระเยซูเจ้าเลยก็ตาม แต่เขาได้แสดงพลังของพระเยซูเจ้า แม้ว่าเขาจะไม่ได้เป็นศิษย์ของพระองค์เลยก็ตาม
• เมื่อพระเยซูเสด็จกลับขึ้นสู่สวรรค์ พระบิดาทรงส่งพระจิตเจ้าเพื่อปฏิบัติภารกิจต่อไป พระจิตของพระบิดาและพระบุตรยังคงดำเนินอยู่ในโลกของเราและหล่อเลี้ยงชีวิตของผู้คนที่ยอมรับความรักของพระเจ้า
• พระเยซูเจ้าไม่ได้ห้ามคนที่ทำการในนามของพระองค์ พระองค์ตรัสว่า “ผู้ที่ไม่ได้ต่อต้านเรา ก็เป็นฝ่ายเรา” พระองค์ไม่ได้ปล่อยให้ศิษย์ของพระองค์ติดตามชายคนนั้นไป แต่พระเยซูเจ้าทรงสอนให้ศิษย์ของพระองค์และเราทุกคนให้รู้ว่า นั่นคืองานของพระเจ้า เราได้ปฏิบัติต่อผู้ที่ไม่ได้เป็นคาทอลิก เหมือนดังพี่น้องด้วยความเคารพเพราะ เรารู้ว่า พระเจ้าอาจพูดอะไรกับเรา ผ่านทางบุคคลเหล่านั้น และอาจพูดกับพวกเขาเหล่านั้นผ่านทางเราคาทอลิกด้วยเช่นกัน
• ขอให้โลกของเราเต็มเปี่ยมไปด้วยพระจิตของพระเจ้า และให้เราเปิดตาของเราเพื่อรับสิ่งดีในตัวของบุคคลที่อยู่รอบข้างเรามากขึ้น ทุกศาสนา ทุกความดีงาม และปฏิบัติต่อกันและกันด้วยความรักต่อกันอย่างแท้จริง อันจะทำให้ ความรักในแบบพระเยซูเจ้าได้เป็นจริงในชีวิตของเรา
• ขอพระเจ้าประทานพระพรแด่พี่น้องทุกท่าน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น