วันเสาร์ที่ 13 ธันวาคม พ.ศ. 2551

ส. 3 เทศกาลเตรียมรับเสด็จฯ ปี B



อาทิตย์ที่ 14 ธันวาคม 2008



สิ่งที่ถือว่า คริสตชนเราละเลยในการปฏิบัติมากที่สุด ก็คือ การชื่นชมยินดี พระวาจาของพระเจ้าสอนเราให้ชื่นชมยินดี ให้มีความเชื่อและความรัก คำสั่งของพระเจ้าคือให้เราชื่นชมยินดี และใน ส.3 ของเทศกาลเตรียมรับเสด็จพระคริสตเจ้านี้ พระศาสนจักรก็เตือนใจเราให้ระลึกถึงสิ่งที่เราหลงลืมไปนี้เป็นพิเศษ


· พี่น้องครับ ส.3 ของเทศกาลเตรียมรับเสด็จพระคริสตเจ้านี้ ถูกเรียกว่า “Guadete Sunday” Guadete เป็นภาษาลาตินแปลว่า “ความยินดี” เป็นพระวาจาที่นำมาจากจดหมายของ น.เปาโลถึงชาวเธสะโลนิกา ซึ่งเป็นบทอ่านที่สองในวันนี้ “พี่น้อง จงร่าเริงยินดีเสมอ” เป็นคำสั่งที่เป็นแง่บวก ทุกที่ทุกเวลาร่าเริงเสมอ ไม่ได้เป็นเงื่อนไขว่า ให้เราเก็บความยินดีไว้เฉพาะเวลาที่เรากำลังดีดีอยู่เท่านั้น


· พี่น้องครับ มีเรื่องเล่าเรื่องหนึ่ง วันหนึ่งพ่อกลับจากที่ทำงานและประกาศว่า พ่อได้ทำเงินหายไปหมดแล้วเพราะหุ้นส่วนได้ต้มพ่อไปหมดและหนีไปกับเงินทั้งหมด และในเย็นวันนั้นเอง ผู้เป็นแม่ก็ออกไปและได้ขายเครื่องประดับราคาแพงของเธอและซื้ออาหารสำหรับมื้ออาหารที่หรูหรา ผู้คนก็วิพากษ์วิจารณ์เธอถึงความบ้าระห่ำในสถานการณ์เช่นนี้ ในเวลาที่ครอบครัวกำลังลำบาก แต่ผู้เป็นแม่ก็บอกกับทุกๆคนว่า “ช่วงเวลาแห่งความยินดีก็คือเวลานี้แหละ คือ เมื่อเวลาที่เราต้องการมันมากที่สุด ไม่ใช่ในอนาคตหรืออาทิตย์หน้า!!” ความกล้าหาญของแม่คนนี้ที่ทำให้ครอบครัวของเธอมีความสุขและมีความหวังเพื่อเผชิญหน้ากับอนาคตด้วยความมั่นใจและวางใจในพระเจ้าว่า พระองค์จะประทานทุกสิ่งให้


· พี่น้องครับ วันนี้ น.เปาโลให้บอกกับเราว่า เราต้องทำมันตลอดเวลา “จงร่าเริงยินดีเสมอ จงอธิษฐานภาวนาอย่างสม่ำเสมอ จงขอบพระคุณพระเจ้าในทุกกรณี เพราะพระองค์ทรงปรารถนาให้ท่านทำสิ่งเหล่านี้ในพระคริสตเยซู” ทุกเวลา ทุกสถานการณ์เราต้องร่าเริงยินดี, สวดภาวนาและขอบพระคุณ น.เปาโลให้เพิ่งคำสั่งนี้เพื่อสะท้อนถึงน้ำพระทัยของพระเจ้าสำหรับผู้ที่จะติดตามพระเยซูเจ้า ในฐานะที่พี่น้องอยู่ในโลก พี่น้องรู้ดีว่า ชีวิตในโลกนี้ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ (วันแต่งงาน) แต่ชีวิตหลังความตายนั้นจะเป็นความสุขสำราญ ความหวังของเราจึงไม่ได้อยู่ในชีวิตนี้เท่านั้น จึงเป็นเหตุผลท่า ทำไมเราคริสตตังค์จึงสามารถร่าเริงยินดีทั้งในเวลาที่มีความสุขและในเวลาที่มีความทุกข์ เหมือนอย่างที่พระเยซู


· พี่น้องครับ นอกจากนั้นแล้ว น.เปาโล ยังได้บอกถึงสิ่งที่เราไม่ควรทำ สิ่งที่เราควรหลีกเลี่ยง
“อย่าดับไฟของพระจิตเจ้า อย่าดูหมิ่นการประกาศพระวาจา จงทดสอบทุกสิ่งและยึดสิ่งที่ดีงามไว้ จงละเว้นความชั่วทุกรูปแบบ”


ท่านต้องไม่ขัดขวางการนำทางของพระจิตเจ้า ไม่ละทิ้งพระวาจาของพระ ละเว้นความชั่วทุกรูปแบบ น.เปาโลต้องการกระตุ้นเตือนเราและให้เราหล่อเลี้ยงชีวิตฝ่ายจิตที่อยู่ในตัวของเรา ในฐานะมนุษย์นั้น เรามีทั้งส่วนที่เป็นร่างกายและจิตใจ คริสตชนบางคนก็ให้ความสนใจอยู่กับเรื่องของสิ่งของและละเลยเรื่องของจิตวิญญาณ พี่น้องสามารถมองเห็นได้จาก การเตรียมสำหรับคริสตมาส เราสนใจเรื่องการประดับตกแต่งบ้านของเรามากกว่าการทำความสะอาดฝ่ายจิตใจ เราตระเตรียมของขวัญให้กับครอบครัวและเพื่อนๆ มากกว่า เตรียมของขวัญให้กับตัวเองซึ่งเราต้องเตรียมเพื่อพระเจ้า


· พี่น้องครับ เทศกาลเตรียมรับเสด็จพระคริสตเจ้า เป็นเวลาที่เราต้องเตรียมไม่เฉพาะฝ่ายร่างกายเท่านั้น แต่จิตใจก็สำคัญมากๆ ที่เราต้องเตรียมสำหรับการมาของคริสตเจ้า


· พี่น้องครับ ที่สุดแล้ว น.เปาโลบอกกับเราถึงวิธีการที่จะได้รับชีวิตพระ ไม่ใช่วิธีการที่เราจะได้รับโดยพลังของเรามนุษย์ แต่เป็นสิ่งที่พระเจ้าได้ทำให้สำเร็จในเรา “ขอองค์พระเจ้าผู้ประทานสันติ บันดาลให้ท่านทั้งหลายเป็นผู้ศักดิ์สิทธิ์อย่างสมบูรณ์ ขอพระองค์ทรงคุ้มครองท่านให้พ้นคำตำหนิทั้งด้านจิตใจ วิญญาณและร่างกาย เมื่อพระเยซูคริสต์ องค์พระผู้เป็นเจ้าของเราเสด็จมา พระองค์ผู้ทรงเรียกท่านนั้นทรงซื่อสัตย์ พระองค์จะทรงกระทำให้สำเร็จ” ชีวิตสู่ความศักดิ์สิทธิ์อย่างที่ น.เปาโล บอกกับเรานี้ว่า โอกาสเทศกาลเตรียมรับเสด็จพระคริสตเจ้านี้เป็นชีวิตของพระเจ้าที่มาอยู่กับเรา เป็นพระเจ้าเองที่ทรงทำให้สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้น เพื่อให้เราตอบรับพระองค์ว่า “ตกลง” และยอมจำนนต่อพระองค์ทั้งหมดของชีวิตของเรา


· ชีวิตแห่งความร่าเริงยินดีเป็นสิ่งที่ยาก แต่พระเจ้าที่ทรงเรียกร้องเราให้ทำสิ่งนี้ในชีวิต พระองค์ทรงเป็นผู้ที่มอบสิ่งนี้ให้กับเรา พระองค์สัตย์ซื่อต่อเรา และพระองค์จะกระทำสิ่งต่างๆนี้ในชีวิตของเราแน่นอน


· อาแมน

ไม่มีความคิดเห็น: