
สมโภชพระเยซูเจ้าทรงเป็นกษัตริย์แห่งสากลจักรวาล
วันนี้เป็นวันสุดท้ายของปีพิธีกรรม ซึ่งเราฉลองพระเยซูทรงเป็นกษัตริย์แห่งสากลจักรวาล บทอ่านในบทอ่านที่หนึ่งนั้นสะท้อนให้เห็นภาพกษัตริย์ในรูปแบบที่พระเยซูทรงเป็น และหากจะถามว่า การเป็นกษัตริย์ของพระเยซูนั้นมีความหมายต่อพวกเราอย่างไร ? เพื่อที่จะบอกได้ว่า เราเป็นส่วนหนึ่งของพระอาณาจักรของพระองค์ เราคงต้องพยายามทำความเข้าในสิ่งที่บอกในบทอ่านจากประกาศกเอเสเคียลเสียก่อน
ในบทอ่านที่หนึ่งนั้น ประกาศกเอเสเคียล ได้พูดถึงพระเจ้าที่พระองค์ทรงเป็นดังนายชุมพาบาลผู้เลี้ยงแกะแห่งชนชาติอิสราเอล กษัตริย์แห่งอิสราเอลซึ่งถูกอ้างว่า เป็นพระเจ้าที่สามารถมองเห็นได้และถูกให้ภาพของการเป็นนายชุมพาบาล แต่ในบรรดากษัตริย์ทั้งหลายเหล่านั้น มิได้มีชีวิตในบทบาทที่พวกเขาได้เป็นคือมิได้เป็นดังนายชุมพาบาลที่ดีซึ่งแตกต่างจากการนำชนชาติอิสราเอลของพระเจ้า รูปแบบบายชุมพาบาลในแบบของพระเจ้าที่พระองค์ทรงเน้นย้ำก็คือ รูปแบบของการให้และการช่วยเหลือผู้ตกทุกข์ได้ยาก โดยเฉพาะในเรื่องความยุติธรรมและอำนาจต่างๆ และนี่คือสิ่งที่ในบทอ่านที่หนึ่งบอกกับเรา
เราจะตามหาแกะที่หาย ตัวไหนหลงทางไป เราจะนำกลับมา ที่บาดเจ็บก็จะทำแผลให้ ตัวไหนอ่อนแอ ก็จะบำรุงให้แข็งแรง ที่อ้วนท้วนแข็งแรงอยู่แล้ว ก็จะทะนุถนอมไว้ เราจะเลี้ยงมันอย่างที่ควร(ยุติธรรม) (Ezekiel 34:16).
พี่น้องที่รัก สัญญาของพระเจ้าที่ทรงมอบให้กับเราดูแลประชากรของพระองค์คืออะไร?? ในฐานะที่เราทุกคนเป็นคริสตชน เราได้เห็นแบบอย่างที่ดีที่สุดจากพระเยซูคริสตเจ้า ผู้ที่เราทำการฉลองในวันนี้ พระองค์ได้ทรงเริ่มการเป็นกษัตริย์ของพระองค์ แต่พระองค์จะกลับมาถึงในวันพิพากษาเพื่อทำให้ทุกสิ่งทุกอย่างสมบูรณ์ ในวันนั้นพระองค์จะนั่งบนพระบัลลัง พิพากษาชายและหญิงจากทุกชนชาติ ไม่ว่าเด็กชายหรือเด็กหญิง ดุจดังแยกแกะออกจากแพะ
กิจการที่เฉพาะเจาะจงที่พระเยซูทรงกล่าวถึงเป็นพิเศษ เพื่อช่วยในการแยกแยะดังที่ปรากฏในพระวรสารก็คือ (i)การเลี้ยงผู้หิวอาหาร (ii) การให้น้ำแก่ผู้หิวกระหาย(iii)การให้เสื้อผ้าแก่ผู้ที่ขัดสน (iv) การให้ที่พักพิง (v)การเยี่ยมเยียนผู้ต้องขัง(vi) การดูแลผู้เจ็บป่วย
ทุกคนจะได้รับการพิพากษา ไม่ว่าคนนั้นจะเป็นคริสตชนหรือไม่ก็ตาม และไม่ขึ้นกับว่าเราเป็นส่วนหนึ่งในอาณาจักรของพระเจ้าหรือไม่
พี่น้องครับ ข่าวดีสำหรับเราทุกคนก็คือ เราโชคดีที่สุดที่เรามีกษัตริย์ที่พระองค์ทรงสนใจเราแต่ละคน และทรงช่วยเหลือเราไม่แต่เฉพาะเวลาที่เราต้องการพระองค์หรือในเวลาปกติของชีวิต หรือในเวลาที่ต้องการพระองค์มากที่สุด แต่พระองค์ทรงอยู่เพื่อช่วยเราเสมอในทุกกรณี
ความท้าทายสำหรับเราทุกคนในวันนี้ก็คือ ให้เราลืมความต้องการของตนเองและแบ่งปันความรักของเราออกไปให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ คิดถึงผู้อื่นมากขึ้นโดยเฉพาะบุคคลในครอบครัวของเรา พยายามแบ่งปันความรักและสันติสุขและความสุขแก่ผู้อื่นเสมอ
‘เราบอกความจริงแก่ท่านทั้งหลายว่า ท่านทำสิ่งใดต่อพี่น้องผู้ต่ำต้อยที่สุดของเราคนหนึ่ง ท่านก็ทำสิ่งนั้นต่อเรา’
ขอพระเจ้าประทานพระพรแด่พี่น้องทุกท่าน
1 ความคิดเห็น:
hi! nice blog!
แสดงความคิดเห็น