วันพุธที่ 2 ธันวาคม พ.ศ. 2552

ส.2 เทศกาลเตรียมรับเสด็จพระคริสตเจ้า ปี C - 06-12-2009




สวัสดีครับพี่น้องที่รักทุกท่าน
พระสงฆ์บวชใหม่องค์หนึ่งถูกส่งไปทำงานเพื่อเป็นปลัดของพระสงฆ์อาวุโสที่วัดแห่งหนึ่ง พระสงฆ์หนุ่มก็เข้าไปขอคำแนะนำ พระสงฆ์หนุ่มถามว่า “พ่อครับ ผมจะต้องเทศน์เกี่ยวกับเรื่องอะไรดีครับ?” พระสงฆ์อาวุโสตอบว่า “ให้เทศน์แค่สิบนาทีพอ”
หลายปีผ่านไป ก็มีพระสงฆ์อีกองค์หนึ่งไปทำงานที่ประเทศฝรั่งเศสในช่วงฤดูร้อน ก็ได้รับคำแนะนำจากพระสงฆ์อาวุโสที่นั่นว่า ให้เทศน์และทำมิสซาให้สั้นที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพราะคนที่มาวัดเขาไม่ชอบเสียเวลานานๆในวัด พระสงฆ์องค์นั้นก็ทำตามด้วยดี
แต่หลังจากนั้นไม่นาน ก็เกิดเรื่องประหลาดใจ เมื่อมีวงขับร้องประสานเสียงจากประเทศอังกฤษมาแสดงผลงานเพลง “แมสไซยาห์” ของแฮนเดิล โดยวงนั้นมาขับร้องในวัด และใช้เวลาผ่านไป 3 ชั่วโมง ทุกคนในวัดก็ยังปรบมือขอให้วงขับร้องนั้น ร้องเพลงต่อไป
พระสงฆ์องค์นั้นบอกว่า ไม่เคยเห็นสัตบุรุษมีความชื่นชมยินดีขนาดนี้มาก่อนในวัดแห่งนั้น ไม่เคยเห็นความกระตือรือร้นเช่นนั้นมาก่อนเลย พระสงฆ์หนุ่มก็เลยถามพระสงฆ์อาวุโสว่า “ทำไมสัตบุรุษสามารถที่จะนั่งในสถานที่เดียวกันได้ถึงสามชั่วโมง เพื่อฟังด้วยความยินดีกับวงขับร้องประสานเสียง แต่ไม่สามารถนั่งในที่เดียวกันเดียวกัน เมื่อเขาฟังพระวาจาของพระเจ้าในมิสซา?” และไม่มีคำตอบสำหรับเรื่องนี้

พระสงฆ์หนุ่มนั้นก็ได้แต่คิด แต่ก็ได้คำตอบในอีกหลายปีต่อมาจากเพื่อนซึ่งเป็นอาจารย์ในโรงเรียนสอนเรื่องการแพร่ธรรม สิ่งที่ทำให้พระสงฆ์หนุ่มนั้น เข้าใจในบัดเดี๋ยวนั้นก็คือ เพื่อนของเขาบอกว่า สัตบุรุษนั้นจำเป็นต้องมีประสบการณ์ส่วนตัวกับพระเจ้าในชีวิตของเขาก่อน ก่อนที่เขาจะได้ฟังพระวาจาของพระเจ้า เขาถึงจะฟังพระวาจาของพระเจ้าด้วยความยินดี
เพื่อนเขาบอกอีกว่า การประกาศพระวาจาของพระเจ้าให้กับคนที่ไม่รู้จักพระเจ้า คนที่ไม่มีความสัมพันธ์กับพระเจ้า ก็เหมือนกับการอ่านบทกลอน บทกวีให้กับคนที่ไม่ซาบซึ้งหรือไม่รู้จักบทกวีว่าเป็นอย่างไรนั่นเอง เพราะพวกเขาก็จะเบื่อง่ายและต้องการที่จะรีบๆ ออกจากวัดไป

พี่น้องครับ ถ้าอย่างนั้น ทำอย่างไรที่เราจะเปลี่ยนความน่าเบื่อที่จะฟังพระวาจาของพระองค์ ให้เป็นความชื่นชมยินดีและความกระตือรือร้นได้ วันนี้ น.ยอห์น บัปติส เป็นตัวอย่างสำหรับเราแล้วในวันนี้

เมื่อเราอ่านพระวาจาในวันนี้ "พระวจนะของพระเจ้ามาถึง ยอห์น บุตรของเศคาริยาห์ ในถิ่นทุรกันดาร เขาจึงไปทั่วแม่น้ำจอร์แดน เทศน์สอนเรื่องพิธีล้างซึ่งแสดงการเป็นทุกข์กลับใจเพื่อจะได้รับการอภัยบาป” (ลก 3:2-3).
ในพระวาจาสั้นๆ ที่พ่ออ่านให้ฟังนี้ เราพบสามขั้นตอนที่จำเป็นสำหรับใครก็ตามที่ต้องการจะมีความกระตือรือร้นในความเชื่อสามขั้นตอนนั้นคือ
1. ยอห์นไปที่ทะเลทราย
2.พระวาจาของพระเจ้ามาถึงยอห์น
3.ยอห์นออกจากทะเลทรายและไปประกาศความเชื่อของเขา เราจึงมาปรับชีวิตของเราให้มีชีวิตชีวาด้วย 3 ขั้นตอน
ขั้นที่ 1 เราต้องไปทะเลทราย , ทะเลทรายเป็นสถานที่ซึ่งเราจะได้อยู่ตามลำพังกับพระเจ้า เราไปทะเลทรายเพื่อออกจากภารกิจการงานปกติ และละทิ้งงานทุกอย่างไว้เพื่อไปอยู่กับพระเจ้าในวัด , ในการสวดภาวนา และอ่านพระวาจาของพระองค์ ทะเลทรายคือที่ที่เราจะได้พบกับพระเจ้า เราต้องเริ่มด้วยขั้นที่ 1 นี้ก่อนเพื่อจะได้ไปหาพระเจ้าได้ (ทะเลทรายนี้น่าจะหมายถึงสถานที่เงียบๆ สงบๆ ที่เราจะได้สวด อ่านพระคัมภีร์ ได้อย่างดีและสงบเพื่อฟังเสียงของพระเจ้า..ผู้แปล)
ขั้นที่ 2 - พระวาจาของพระเจ้ามาถึงเรา เมื่อเราเปิดใจให้กับพระเจ้าในทะเลทราย พระองค์เองก็มาหาเราและเติมเต็มชีวิตให้เรา นักบุญท่านหนึ่งกล่าวไว้ว่า เมื่อเราเริ่มขั้นที่ 1 พระเจ้าจะทรงเริ่มขั้นที่ 2 กับเรา ขั้นนี้ พระเจ้าทรงเริ่มมาหาเรา เติมเต็มให้เรา ฟื้นฟูชีวิตของเรา เปลี่ยนแปลงเรา เพื่อให้เรามีส่วนละม้ายคล้ายคลึงพระองค์ยิ่งขึ้นไปอีก ขั้นนี้บางคนบอกว่า ได้เกิดใหม่อีกครั้ง เมื่อเราสัมผัสพระเจ้าได้เช่นนี้ เราจึงอยากจะสวดภาวนาทั้งวันในวัด อ่านพระคัมภีร์ทั้งวัน แต่เช่นเดียวกับยอห์น เราเองก็ต้องกลับไปทำหน้าที่ของเราในครอบครัวและในสังคม
ขั้นที่ 3 - เราออกไปประกาศความเชื่อ เมื่อเรามีประสบการณ์กับความดีงามของพระเจ้าในชีวิตของเรา เราก็ออกไปเพื่อแบ่งปันประสบการณ์นั้นให้กับผู้อื่น เหมือนกับถ้าเรามีเสื้อตัวหนึ่งที่ สกรีนตัวอักษรติดเอาไว้ว่า “ว้าว, พระเจ้านั้นสุดยอด” คนที่มองดูเราก็เห็นความชื่นชมยินดี สันติสุขจากเรา และบางทีเขาก็อาจจะได้รับความยินดีเช่นเดียวกับเรา เขาอาจจะอยากเป็นเพื่อนกับเรา และเมื่อเราสามารถช่วยเขาเหล่านั้นให้เห็นหนทางของพระเจ้าได้ ให้เขาได้มีประสบการณ์ส่วนตัวกับพระองค์ได้ แต่บางทีเขาก็อาจไม่เข้าใจ จนกว่าเขาจะมีประสบการณ์นี้ด้วยตนเอง
พี่น้องครับ ให้เราภาวนาในวันนี้ว่า “พระเจ้าทรงพละกำลังและเปี่ยมด้วยพระเมตตา โปรดเปิดใจของเราให้ต้อนรับพระองค์ โปรดขจัดสิ่งที่ขัดขวางเราไม่ให้ยอมรับพระองค์ด้วยความชื่นชมยินดีด้วยเถิด”
ในโอกาสเทศกาลเตรียมรับเสด็จนี้ ขอให้เป็นขั้นแรกที่เราจะมีที่ว่างในใจสำหรับพระเจ้า ให้เวลาสำหรับการมาวัด เพื่อภาวนา และฟังพระวาจาของพระองค์ด้วยเทอญ

ขอพระเจ้าประทานพระพรแด่พี่น้องทุกท่าน

ไม่มีความคิดเห็น: