สมโภชพระคริสตแสดงองค์ 2009
ในค่ำคืนอันเหน็บหนาว ชาวนา 3 คนนั่งผิงไฟอยู่รอบกองไฟ ไม่นานชายชาวนาสองคน ก็เริ่มต้นคุยเกี่ยวกับศาสนาของตนเองแล้วก็เถียงกันว่า ศาสนาใดคือศาสนาที่เที่ยงแท้ถาวรและดีที่สุด เถียงกันไปมาหาข้อสรุปไม่ได้ ทั้งสองจึงหันมาถามเพื่อนอีกคนที่นั่งเงียบๆ “ท่านช่วยตัดสินให้หน่อยว่า ศาสนาของใครเป็นศาสนาที่เที่ยงแท้” ชายคนที่ 3 ก็ตอบว่า “ ท่านทั้งสองก็รู้ดีกว่า หนทางที่จะไปยังโรงงานผลิตสินค้านั้นจะต้องไปอย่างไร? 1. ท่านเดินข้ามภูเขาลูกนี้ไปก็ได้, แม้ว่ามันจะสั้นหน่อยแต่ก็ยากลำบาก เพราะต้องปีนขึ้นไป 2. ท่านไปทางขวามืออ้อมภูเขาไปหน่อยก็ได้ก็ไม่ไกลเท่าไร แต่ถนนขรุขระ เป็นหลุมเป็นบ่อหน่อย 3. หรือไม่ก็ไปทางซ้ายก็ได้ แต่ทางไกลกว่า แต่ก็ง่ายที่สุด แต่พวกท่านรู้หรือไม่ เมื่อพวกท่านไปถึงโรงงานแล้ว เจ้าของโรงงานจะไม่ถามหรอกว่า พวกท่านมาที่โรงงานของเขาได้อย่างไร แต่จะถามท่านว่า “เป็นไง,ผลผลิตของพวกท่านเป็นอย่างไร?”
พี่น้องครับ เรื่องราวการประสูติของพระเยซูเจ้า มีกลุ่มคนสองกลุ่มที่ได้พบพระกุมาร นั่นคือ 1.กลุ่มคนเลี้ยงแกะ 2.กลุ่มพญาสามองค์ คำถามมีอยู่ว่า ทำไมพระศาสนจักรไม่ได้จัดให้มีการฉลองการมาเยี่ยมของคนเลี้ยงแกะ? แต่มีการฉลองสำหรับการเยี่ยมของพญาสามองค์ ทำไมจึงเป็นเช่นนั้น?? เป็นเพราะว่า การมาของพญาสามองค์เป็นการเปิดหูเปิดตา ซึ่งคนเลี้ยงแกะได้รับการเผยแสดงจากทูตสวรรค์แล้ว เรียกว่า การเผยแสดงโดยตรงและเหนือธรรมชาติ สำหรับเราทุกคนไม่มีปัญหา แต่สำหรับพญาสามองค์ที่เดินทางมาโดยดาวนำทาง ดาวไม่ได้บอกอะไรกับทั้งสาม ทั้งสามต้องแปลความหมายจากเครื่องหมายดาวนำทางเพื่อที่จะรู้ว่า ดาวดาวบอกอะไรกับพวกท่านและจะนำทางพวกท่านไปที่ไหน
พี่น้องครับ เรื่องเล่าที่พ่อเล่าให้ฟัง บอกกับเราว่า ศาสนาทุกศาสนาเป็นหนทางหนึ่งที่มุ่งไปสู่ความดีสูงสุด สำหรับเราคริสตชน นั่นคือ หนทางไปสู่พระเจ้า สิ่งที่พระเยซูบอกกับเราก็คือ “เราคือหนทาง ความจริง และชีวิต ไม่มีใครไปหาพระบิดาได้ นอกจากผ่านทางเรา” (ยน. 14:6)
พี่น้องครับ เราลองสังเกตดูว่า ทำไมผู้คนในศาสนาอื่นๆ จึงได้รับรู้เรื่องราวการประสูติของพระเยซู คนเลี้ยงแกะซึ่งไปคนต่ำต้อย ไม่สามารถเข้าพระวิหารเพื่อนมัสการพระเจ้าหากไม่ไปชำระล้างร่างกายให้สะอาดเรียบร้อย แต่พวกเขากลับได้รับการเผยแสดงโดยตรงจากทูตสวรรค์ พญาสามองค์ได้รับรู้ผ่านทางการนำทางของดวงดาว ธรรมาจารย์ของกษัตริย์เฮโรดค้นพบการบังเกิดจากการอ่านพระคัมภีร์ มีการบันทึกไว้ในพระคัมภีร์
พี่น้องจะเห็นว่า การเผยแสดงของทูตสวรรค์,ดวงดาวนำทาง,พระคัมภีร์ คือหนทางที่แตกต่าง แต่ได้รับรู้ความจริงอันเดียวกัน น.มัทธิวเล่าเรื่อง ดาวนำทางที่นำพญาสามองค์มาที่เยรูซาเล็มแล้วดาวก็ดับแสงทำให้ทั้งสามต้องขอคำแนะนำจากฟารีสี ธรรมาจารย์ ที่อ่านพระคัมภีร์แล้วก็บอกว่า ให้ไปที่เบธเลแฮม หมายความว่า เหนือสิ่งอื่นใด ชีวิตของเราก็ต้องการแสงสว่างเหนือธรรมชาติของพระคัมภีร์เพื่อนำทางให้เราได้รู้จักพระเยซูมากยิ่งขึ้น
แล้วใครหล่ะที่ได้พบพระเยซูเจ้า : กษัตริย์เฮโรดหรือธรรมาจารย์ ไม่พบพระเยซูแม้พวกเขาจะมีพระคัมภีร์อยู่ในมือ แต่กลับกลายเป็นพญาสามองค์(คนต่างศาสนา)ที่เดินตามดวงดาวนำทาง กลับได้พบพระเยซูเจ้า ทำไม? เพราะว่ากษัตริย์เฮโรด และบรรดาฟารีสี ไม่ได้ปฏิบัติตามคำแนะนำแห่งพระคัมภีร์(มิได้ปฏิบัติตามพระวาจา) ตรงกันข้าม พญาสามองค์ ติดตามการนำทางนั้นอย่างใจจดจ่อ ดำเนินชีวิตตามการนำทางนั้นอย่างดี เตรียมพร้อมชีวิตอยู่เสมอเพื่อติดตามการนำนั้น
ในโอกาสปีใหม่ 2552/2009 นี้ สำหรับพี่น้องทุกท่าน เราเชื่อว่า ศาสนาของเราเป็นศาสนาที่เปี่ยมด้วยจริงสูงสุด แต่จะมีประโยชน์อันใด หากเรามิได้ปฏิบัติตามคำสอน คำแนะนำแห่งพระวรสาร จากพระวาจา และ มิได้เดินในหนทางแห่งความจริงและความถูกต้อง?
ข้อคิดสำหรับเราทุกคนก็คือ คนต่างศาสนา 2 กลุ่มซึ่งมีหัวใจบริสุทธิ์ติดตามการนำทางจนได้พบพระกุมารเยซูก่อนกลุ่มคริสตชนซึ่งรู้ความจริงที่พระเจ้าเผยแสดงให้รู้ แต่ไม่ได้เดินตามความเชื่อนั้น
การท้าทายนี้เชิญชวนเราให้ฉลองวันนี้ที่เรื่องราวของคนต่างศาสนา พญาสามองค์ที่แสวงหา ติดตามจนได้พบกับพระเยซู
ขอพระเจ้าประทานพระพรแด่ทุกท่านตลอดปีใหม่นี้และตลอดไป
2 ความคิดเห็น:
สวัสดีปีใหม่คุณพ่อ ขอให้ปีนี้เป็นปีที่ดีของคุณพ่อเหมือนที่ผ่านมา
ปีใหม่นี้ขอให้...เป็นปีที่คุณพ่อประสบความสำเร็จตามพระประสงค์ของพระเป็นเจ้า..ทุกๆ ประการน๊ะค๊ะ..และขอให้สุขภาพแข็งแรง...ค่ะ จะได้เอาแรงไว้ทำมิซซาสอนพวกเรา....และก็เตะบอลด้วยค่ะ...
จาก...นามปากกา "ลูกบอล"
แสดงความคิดเห็น