
พี่น้องที่รักในพระคริสตเจ้า เราเข้าใกล้สัปดาห์ศักดิ์สิทธิ์มากยิ่งขึ้น สิ่งที่เราได้ตั้งใจทำ เราเตรียมจิตใจของเราเพื่อร่วมส่วนในพระทรมานของพระเยซู
พี่น้องครับ ในประเพณีของชาวยิวเชื่อกันว่า หลังจากที่คนเราตาย วิญญาณจะยังอยู่ในร่างกายอีก 3 วัน และหลังจากสามวันแล้ว วิญญาณก็จะจากไปแล้วไม่มีทางหวนกลับมาอีก ซึ่งก็พอดีกับช่วงเวลาที่ร่างกายก็เริ่มเน่าเปื่อยด้วย มาร์ธาได้บอกว่า “พระเจ้าข้า ศพมีกลิ่นแล้ว เพราะฝังมาถึงวันที่สี่” มาร์ธาถามคำถามนี้เพื่อแสดงว่า นางหมดหวังแล้ว พระเยซูเจ้าไม่จำเป็นต้องทำอะไรอีก สิ่งนี้น่าจะเป็นเหตุผลที่ว่า ทำไมพระเยซูเจ้าจึงต้องเสด็จมาในวันที่สี่ เพื่อทำให้สิ่งที่ไม่มีหวัง สิ่งที่เป็นไปไม่ได้ “ให้เป็นไปได้” นั่นคือ การปลุกคนตายให้กลับคืนชีพ
พี่น้องครับ สำหรับเราคริสตชนทุกคน การกลับคืนชีพของลาซารัสสะท้อนภาพของการกลับคืนชีพของพระเยซูเจ้าด้วย พระองค์กลับเป็นขึ้นมาในวันที่สาม พระกายของพระองค์ไม่เน่าเปื่อย และสำหรับเราทุกคนก็เป็นเครื่องหมายว่า “จงอย่าเลิกหวังแม้ในสถานการณ์ที่หมดหวัง” ไม่มีคำว่าสายสำหรับเรา ที่พระเจ้าจะช่วยเราแต่ละคน แต่สิ่งแรกที่เราควรทำก็คือ การร่วมมือกับพระเจ้าในชีวิตของเรา
พี่น้องครับ เราจะร่วมมือกับพระเจ้าในประสบการณ์ในความเชื่อของเราอย่างไร? พ่อคิดว่าเราทุกคนรู้ก็คือ นั่นคือ ความเชื่อ แต่นั่นก็ไม่ใช่สิ่งที่ น.ยอห์นต้องการจะใช้สำหรับเราในวันนี้ แต่สิ่งสำคัญก็คือ การที่เราร่วมมือกับอัศจรรย์ต่าง ๆ ของพระในชีวิตของเรา ซึ่งขึ้นอยู่กับการฝึกฝนความนบนอบและการทำตามพระประสงค์ของพระเจ้า
พี่น้องครับ เพื่อให้อัศจรรย์นั้นเกิดผล พระเยซูเจ้าได้มอบ 3 ประการในพระวาจาในวันนี้ ซึ่งพ่อขอแบ่งปันดังต่อไปนี้ 1. พระเยซูตรัสว่า “จงยกแผ่นหินออก....แล้วพวกเขาก็กลิ้งหินออกไป” สำหรับพวกเรา เราเข้าใจหรือเปล่าว่า ทำไปเราต้องยกหินที่หนัก ๆ ออกไปด้วย? แต่เพราะความเชื่อที่เรามีในพระเยซูเจ้าในตัวพระองค์เอง มิใช่ผ่านทางสติปัญญา แต่เป็นการปฏิบัติตามพระองค์ นั่นคือ ความนบนอบเชื่อฟัง ทำไมพระเยซูเจ้าไม่สั่งให้หินกลิ้งออกไปเอง? ทำไมต้องสั่งให้ผู้คนไปช่วยกันยก? พ่อก็ไม่รู้ แต่สิ่งที่เราทุกคนรู้ก็คือ พละกำลังจากพระเจ้านั้น มนุษย์จะต้องร่วมมือกับพระเจ้า มีคนกล่าวไว้ว่า “พระเจ้าดูเหมือนว่าจะไม่ทำอะไรที่พระองค์เองไม่ได้ร่วมมือกับสิ่งสร้างของพระองค์”
ประการที่ 2 พระเยซูสั่งคนตายว่า “ลาซารัส จงออกมาเถิด” ผู้ตายก็ออกมา เราไม่รู้ว่า หลังจากคำสั่งของพระเยซูแล้ว มีอะไรเกิดขึ้นในถ้ำนั้นบ้าง คำสั่งของพระเยซูเจ้าได้รับการปฏิบัติแบบ “ความนบนอบแบบทันทีทันใด” ลาซารัสลุกขึ้นทันที ในขณะที่มือและเท้านั้นก็เต็มไปด้วยผ้าพันอยู่
ประการที่ 3 คำสั่งที่ 3 ก็มุ่งไปหาผู้คนที่อยู่ที่นั่น “จงเอาผ้าออกและให้เขาไปเถิด” ขณะที่ลาซารัสลุกออกมาจากหลุม สิ่งสำคัญก็คือ เขาไม่สามารถเอาผ้าออกด้วยตนเองได้ เขาต้องการให้ผู้คนช่วยเขา ผู้ที่จะช่วยเขาก็คือ ผู้ที่อยู่ที่นั่น อาจเป็นเพื่อนบ้าน พี่น้อง ชุมชนแห่งความเชื่อเดียวกันนั้ ในการรับเขากลับเข้าเป็นส่วนหนึ่งของพวกเขาอีกครั้งหนึ่ง
พี่น้องครับ มีคริสตชนหลายคนที่ทุกวันนี้ได้ตกอยู่ในความตายของบาปต่าง ๆ หลาย ๆ คนก็เข้าไปอยู่ในหลุมศพแห่งความสิ้นหวังและหมดกำลังใจแล้ว การผูกชีวิตของเขาติดกับนิสัยแห่งบาปต่าง ๆ และทัศนคติที่ไม่ดีทั้งหลาย อัศจรรย์ที่จะเกิดขึ้นกับเราก็คือ การฟังพระเยซู การนบนอบต่อคำสอนของพระองค์และปฏิบัติตามทันที
พี่น้องครับ พ่อขอฝากคำถามไว้สำหรับวันนี้ก็คือ 1.เราพร้อมที่จะร่วมมือกับพระองค์ในอัศจรรย์ต่าง ๆ ในชีวิตของเราหรือเปล่า? 2.เราพร้อมที่จะกลิ้งก้อนหินที่กั้นระหว่างเรากับแสงของพระคริสตเจ้าหรือไม่? 3.เราพร้อมที่จะก้าวออกมาจากอุโมงค์แห่งความบาปผิดหรือไม่? 4.เราพร้อมที่จะให้อภัย สิ่งที่ที่ติดยึดในใจเรา การให้อภัยที่เรายังยึดมั่นถือมั่นในใจ ให้บุคคลเหล่านั้นเป็นอิสระไปจากหัวใจของเราหรือเปล่า?
พี่น้องครับ นี่เป็นหนทางหลาย ๆทางที่เราสามารถร่วมมือกับพระเจ้า ให้พระทำอัศจรรย์ต่าง ๆ ในชีวิตของเราเพื่อฟื้นฟูชีวิตของเราแต่ละคนให้กลับมาสู่หนทางของพระเจ้า การภาวนา,กิจการแห่งความเมตตาและการกลับใจส่วนตัวของเราจะเป็นเหมือนดินดีที่ทำให้ชีวิตเติบโตอย่างสมบูรณ์ในความรักของพระที่มีต่อเราทุกคน
ขอพระเจ้าอวยพรพี่น้องทุกคน
1 ความคิดเห็น:
เราจะร่วมมือกับพระองค์ได้อย่างไร
แสดงความคิดเห็น