วันเสาร์ที่ 21 มิถุนายน พ.ศ. 2551

ส.12 เทศกาลธรรมดา ปี A - วันอาทิตย์ที่ 22 มิถุนายน 2551





พี่น้องครับ มีพระสงฆ์ท่านหนึ่งก็เดินทางไปเกาหลี ระหว่างที่กำลังอยู่ในหอประชุมแห่งหนึ่ง ก็ได้พบกับผู้หญิงที่กำลังถูกผีสิง และด้วยความกลัว พระสงฆ์ก็หลบไปอยู่ข้างนอก และคิดถึงพระสงฆ์ที่ศักดิ์สิทธิ์ 2-3 คน เพื่อให้มาช่วยไล่ผีในตัวของผู้หญิงคนนั้น
หลังจากที่คิดไป 20 นาที พระสงฆ์ก็เดินกลับเข้าไป และในระหว่างที่เดินเข้าไปนั้น ก็ได้ยินเสียงเรียก เพื่อขอแก้บาป และเมื่อพระสงฆ์หันไป ก็พบผู้หญิงคนนั้นที่กำลังร้องขอการแก้บาปอยู่ ในคืนนั้นเอง พระสงฆ์องค์นั้นก็ได้รู้ว่า มีเพียงพระเจ้าเท่านั้น ที่ทำให้เขาเอาชนะความกลัวต่าง ๆ ในชีวิต ในจิตใจของเขาได้ และรู้ว่า เครื่องประกันความมั่นใจในชีวิตของเขาก็คือ การรู้ว่า พระเจ้าทรงอยู่ข้างเราเสมอ


พี่น้องครับ เราทุกคนคงเคยที่จะมีความรู้สึก “กลัว” บางสิ่งบางอย่าง กลัวไม่มีคนรัก,กลัวการงานไม่ประสบความสำเร็จ, กลัวการสูญเสียทรัพย์สมบัติ,กลัวสอบตก ฯลฯ แต่วันนี้พระเยซูเจ้าได้กล่าวออกมาว่า “อย่ากลัว”

พี่น้องครับ พระเยซูเจ้าทรงรู้ว่า ศิษย์ของพระองค์ , หมายถึงพวกเราที่นี้ด้วย จะประสบพบเจออะไรในชีวิต เราจะต้องเจอกับคนที่พูดสิ่งไม่จริง,คนโกง,คนเบียดเบียน,ลูก ๆ ของเราที่อาจดื้ออาจซนมาก จนไม่รู้จะทำอย่างไร, ปัญหาเศรษฐกิจต่างๆ ฯลฯ สิ่งต่างๆ เหล่านี้จะเกิดขึ้นในชีวิตของศิษย์ของพระเยซูแน่นอน และตลอดการเดินทางในชีวิตนี้

พี่น้องครับ พระวาจาในวันนี้ เตือนเราว่า อย่าคิดหรือคาดหวังว่า สังคม,ชุมชน,หรือแม้แต่ครอบครัวของเราที่จะรับ “การสอนของพระเยซู” ด้วยหัวใจที่กว้างขวาง เราอาจพบคนที่หัวเราะเยาะเราเมื่อเราเลือกทำในสิ่งที่พระเยซูสอน และเราอาจถูกปฏิเสธ ตั้งแต่ในบ้านของเราเอง เราอาจต้องทนทุกข์กับสิ่งเหล่านี้ และพระเยซูเจ้าทรงเห็นสิ่งต่าง ๆ เหล่านี้ล่วงหน้า และเตือนพวกเราในวันนี้

พี่น้องครับ ความกลัวเป็นความรู้สึกที่เราคุ้นเคย เราทุกคนเคยกลัวกันทั้งนั้น และเกิดขึ้นบ่อยๆในชีวิตของเรา เวลาที่เราคิดได้ถึงเหตุการณ์หลายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในชีวิตของเรา และเราให้พระมีส่วนในชีวิตของเราเพียงครึ่งเดียว

บางครั้งการที่เราแต่งตัวแบบนี้ ก็เพื่อเราจะได้ไม่โดนคนอื่นหัวเราะเยาะว่า ทำไมแต่งตัวเชยๆ, หรือบางทีเราก็เลือกทำสิ่งที่ไม่เหมาะสมในชีวิต แม้ว่า เราเองก็รู้ดีว่า อะไรคือสิ่งที่ดีกว่า
บางที เรากลัวเสียเพื่อน ถ้าเรามาวัด ,หรือบางที เราก็ร่วมวงในการนินทาในเรื่องที่เราอาจรู้ความจริงเพียงนิดเดียว , หรือการปฏิเสธในการชวนไปกินดื่มหรือการเสพยาเสพติด ฯลฯ
พี่น้องครับ นี่คือชัยชนะของปีศาจ,ความชั่วร้าย ซึ่งทำให้คนดีดีอาจต้องอยู่เงียบ ๆ นิ่ง ๆ เพราะเรากลัวการเยาะเย้ยจากผู้อื่น แต่สิ่งนี้กำลังทดสอบความซื่อสัตย์ของเราต่อพระเจ้าอย่างเงียบด้วย

พี่น้องครับ พ่ออยากจะบอกกับพี่น้องว่า ภารกิจของพระเยซู คือการประกาศให้เรารู้ว่า พระเจ้าทรงรักเรา และพระองค์ไม่ลดละในการทำหน้าที่นี้ และสำหรับเรา การติดตามพระเยซูแบบสองจิตสองใจ คงไม่ดีเท่าไร

และยิ่งถ้าในจิตใจในส่วนลึกของพี่น้อง มีความกลัว,ความไม่มั่นใจ เมื่อไรก็เมื่อนั้น พี่น้องต้องสวดภาวนาขอพระหรรษทานเพื่อให้เราเอาชนะความกลัวนี้ให้ได้

พี่น้องครับ ขอให้วันนี้เป็นอีกวันหนึ่งที่พระวาจาของพระเจ้า ช่วยเพิ่มพูนความเชื่อและความมั่นใจของเราต่อพระเจ้าให้มากขึ้น เพื่อเราทุกคนจะได้หมั่นทำความดี เดินตามคำสอนของพระเยซูเจ้าทุกวันด้วยความมั่นใจ อย่ากลัวที่จะสวดภาวนา, อย่ากลัวที่จะทำความดี, อย่ากลัวที่จะเสียเวลาอยู่กับพระนาน ๆ ในมิสซา, ในการเฝ้าศีล ฯลฯ

และไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นกับชีวิต พระเจ้าจะเป็นผู้ควบคุมทุกสิ่ง เพราะโลกนี้เป็นของพระ พละกำลังของพระองค์และพระจิตเจ้าจะทำงานท่ามกลางโลกและเรามั่นใจได้เลยถึงความรักของพระองค์ที่มีต่อเรา และเมื่อเราสิ้นสุดการเดินทางในโลกนี้แล้ว พระเยซูเจ้าเองก็จะรับประกันชีวิตของเราต่อหน้าพระบิดาเจ้า

ขอพระเจ้าอวยพรพี่น้องทุกคน

วันอาทิตย์ที่ 15 มิถุนายน พ.ศ. 2551

ส.11 เทศกาลธรรมดา ปี A - วันอาทิตย์ที่ 15 มิถุนายน 2551





สวัสดีพี่น้องที่รักในพระคริสตเจ้า

ในประเทศอิสราแอล มีทะเลสาบอยู่สองแห่ง นั่นคือ ทะเลสาบกาลิลีและทะเลตาย ทั้งสองทะเลสาบถูกหล่อเลี้ยงด้วยแม่น้ำสายเดียวกัน นั่นคือ แม่น้ำจอร์แดน แห่งหนึ่งเป็นน้ำสะอาด ดื่มกินได้ จับปลาได้ แต่อีกแห่งหนึ่งไม่มีสิ่งมีชีวิต มีความเค็มสูง

พี่น้องครับ ถ้าทั้งสองแห่ง ถูกหล่อเลี้ยงด้วยแม่น้ำสายเดียวกัน ทำไมแห่งหนึ่งจึงมีน้ำสะอาด ดื่มกินได้ แต่อีกที่กลับเป็นทะเลแห่งความตาย? คำตอบก็คือ ทะเลสาบกาลิลีนั้นมีทางออก แต่ทะเลตายไม่มีทางออก
หรือหากเราเปรียบเทียบ ทะเลสาบกาลิลีนั้น รู้จักรับและรู้จักให้(น้ำ) ในขณะที่ทะเลตายนั้น รับอย่างเดียว และไม่ให้ผู้ใด นอกจากระเหยไปเปล่าๆ

พี่น้องครับ การให้และการรับ ทำให้เรามีชีวิตและให้ชีวิต การรับที่ปราศจากการให้ก็ทำให้เราอยู่นิ่ง ๆและตาย

ในพระวรสารวันนี้ พระเยซูเจ้าสอนบรรดาศิษย์ว่า ภารกิจที่พวกเขาต้องทำก็คือ “การให้” ให้ในสิ่งที่พวกเขาได้รับจากพระองค์ “เมื่อท่านได้รับมาเปล่าๆ ก็จงให้ไปเปล่า” และหากเราซึ่งเป็นศิษย์ของพระองค์ทำได้เช่นนี้ พระอาณาจักรของพระเจ้าก็มาถึงเราแล้ว และกลายเป็นจริงในชีวิตของเรา เพราะเราได้ตระหนักถึงสิ่งต่าง ๆ ที่เราได้รับจากพระเจ้า

พี่น้องครับ ในความเป็นจริงแล้ว การเป็นคริสตชนนั้นเป็นชีวิตที่ต้องสำนึกเสมอถึง “การรับ” และ “การคืน” ให้กับพระเจ้า แต่สิ่งที่น่ากลัวกว่านั้นก็คือ เรามักจะตั้งใจที่จะรับ มากกว่าที่จะคืนให้กับพระเจ้า
เราได้รับ พระหรรษทานแห่งความเชื่อ, เรารับพระวาจาของพระเจ้า,เรารับการอภัยจากพระเจ้า, รับศีลศักดิ์สิทธิ์ ,รับชีวิตใหม่ในพระจิตเจ้า แต่ภารกิจที่สมบูรณ์จะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อเราแบ่งปันพระพรที่เราได้รับนี้ ให้กับผู้อื่นด้วย ถ้าเรายังไม่ได้ทำ เราก็คงเหมือนกับทะเลตาย ที่มีแต่รับ ไม่มีการให้
พี่น้องครับ พระเยซูทรงเรียกบรรดาศิษย์และมอบหมายภารกิจให้กับพวกเขา โดยมีเป้าประสงค์ 2 อย่าง 1.ให้พวกเขาอยู่กับพระองค์ เรียนรู้จากพระองค์, เพื่อรับพระหรรษทานและการอวยพร 2.เพื่อที่พวกเขาจะถูกส่งไปประกาศข่าวดี เป็นการแบ่งปันสิ่งที่พวกเขาได้เรียนรู้จากผู้อื่น รับจากพระเยซูและให้กับพี่น้อง
พี่น้องครับ พระวรสารในวันนี้บอกว่า พระเยซูเจ้าไม่ได้ส่งบรรดาศิษย์ของพระองค์ไปมือเปล่า พระองค์รู้ว่า พวกศิษย์และพวกเราทุกคนที่อยู่ในโลกนี้ จะต้องเจอกับพวกนักกฏหมาย , ผู้มีอำนาจและจิตชั่วต่างๆในโลก ดังนั้น พระองค์จึงได้มอบพลังให้กับมนุษย์ทุกคนและการท้าทายที่เราจะต้องพบในโลกปัจจุบัน ในงานประกาศข่าวดีของพระเจ้าด้วยสันติและความรัก

พี่น้องครับ อาจมีคนถามว่า แล้วเราจะเริ่มอย่างไร? พระเยซูเจ้าสั่งให้ศิษย์เริ่มต้นที่ “ลูกแกะที่หายไป” เริ่มจากคนคุ้นเคย ฯลฯ และสำหรับพ่อ พ่ออยากให้เราเริ่มที่บ้าน สถานที่แรกที่เราเริ่มต้นชีวิต จึงเป็นที่เหมาะสมสำหรับความอบอุ่นของสมาชิกทุกคนในครอบครัวและในเขตวัดของเรา และนั่นคือหนทางในการส่งต่อความเชื่อของเรา ความเชื่อที่เราได้รับจากพระเจ้า และนี่เป็นหนทางเดียวที่จะทำให้เรามีชีวิตและสดชื่น เหมือนกับทะเลสาบแห่งชีวิตที่ชื่อ ทะเลสาบกาลิลี
ขอพระเจ้าอวยพรพี่น้องทุกคน